No products in the cart.
0

เหน็บชา

Beriberi

                    เหน็บชาเป็นอาการที่หลายๆคนคงจะเคยเป็นโดยจะมีอาการชาที่บริเวณมือเเละเท้ามักจะเป็นไม่นานแล้วก็หายเป็นปกติแต่หากมีอาการบ่อยหรือเป็นประจำคุณอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหน็บชาได้ 

                    เหน็บชา (Beriberi) เป็นภาวะขาดวิตามินบี 1 ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญกับร่างกายและนับเป็นโรคทางระบบประสาทอย่างหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทรับความรู้สึก โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกายเเบ่งได้เป็นโรคเหน็บชาในเด็ก (Infantile Beriberi) เเละโรคเหน็บชาในผู้ใหญ่ (Adult Beriberi) จะมีอาการดังนี้ 

                    เหน็บชาในเด็ก (Infantile Beriberi) พบได้บ่อยในทารกที่มีอายุ 2-6 เดือนเกิดจากแม่ที่รับประทานอาหารไม่เพียงพอขาดวิตามินบี 1 ส่งผลให้ทารกที่ต้องกินนมจากแม่นั้นขาดวิตามินบี 1 ไปด้วย อาการที่จะพบเช่น หน้าเขียว ตัวเขียว หอบเหนื่อย ตัวบวม ซึม ร้องไม่มีเสียงเเละเสียงร้องผิดปกติ 

                    เหน็บชาในผู้ใหญ่ (Adult Beriberi) ในระยะเเรกจะมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร รู้สึกชาเเละจะเริ่มชามากขึ้นที่ปลายนิ้วมือเเละนิ้วเท้าต่อมาจะเป็นตะคริวไม่สามารถขยับเเขนเเละขาได้ ลุกไม่ได้ เมื่อขยับจะรู้สึกเจ็บเเละปวดกล้ามเนื้อรุนเเรงอาจถึงขั้นอัมพาตได้เเบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 

– Dry Beriberi มักมีอาการชาบริเวณปลายมือ ปลายเท้า กล้ามเนื้อเเขนเเละขาอ่อนเเรง 

– Wet Beriberi นอกจากจะมีอาการชาบริเวณปลายมือ ปลายเท้าเเล้วมักจะมีอาการบวมมีน้ำคั่งในช่องท้องเเละช่องปอด บางรายอาจมีอาการเหนื่อยหอบ หัวใจโตเเละเต้นเร็ว หัวใจวาย ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ได้ทันอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ 

– Wernioke-Korsokoff Syndrome พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง มีอาการทางสมอง 3 อาการ คือ  เดินเซ การเคลื่อนไหวของลูกตาทำได้น้อยหรือไม่ได้เลยเเละมีอาการทางจิตเวช 

                    เหน็บชาเกิดจากการรับประทานอาหารที่ขาดวิตามินบี 1 พบคนเป็นมากในพื้นที่ที่คนนิยมบริโภคข้าวที่ขัดสีเเล้วมากกว่าพื้นที่ที่นิยมบริโภคข้าวซ้อมมือ รวมไปถึงปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 1 เช่น  

การติดสุราเรื้อรัง  

เหน็บชาจากกรรมพันธุ์  

ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) 

การผ่าตัดรักษาโรคอ้วน (Bariatric Surgery)  

โรคเอดส์ (AIDS)  

ท้องเสียเป็นเวลานานหรือใช้ยาขับปัสสาวะ  

ผู้ที่กำลังรักษาด้วยการฟอกไต  

อาหารโดยเฉพาะผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มีสารทำละลายวิตามินบี 1 เช่น ปลาร้า ใบชา  

ผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรัง  

ผู้ที่ต้องออกเเรงหรือทำงานหนักๆรวมถึงผู้ต้องขังในเรือนจำเเละชาวประมงที่ออกเรือเป็นเวลานาน  

ทารกที่กินนมมารดาเพียงอย่างเดียวโดยที่มารดาขาดวิตามินบี 1 หรือเป็นโรคเหน็บชาหรือทารกกินนมที่ไม่มีส่วนผสมของวิตามินบี1  

ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร 

ผู้ที่รับประทานอาหารจำพวกเเป้งเเละน้ำตาลมากแต่รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 น้อย 

                    ภาวะเเทรกซ้อนของอาการเหน็บชาเนื่องจากการขาดวิตามินบี 1 อย่างรุนเเรงอาจทำให้เกิดภาวะเเทรกซ้อนรุนเเรงที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท สมอง กล้ามเนื้อ หัวใจ กระเพาะเเละลำไส้ เช่น ภาวะหัวใจวาย หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เสียชีวิตได้ โรคภูมิแพ้ชนิดรุนเเรง (Anaphalaxis) เกิดจากการรักษาด้วยหารให้อาหารทางหลอดเหลือด อาการขาดวิตามินบี 1 เกิดได้จากการขาดวิตามินบี 1 ชนิดอื่นๆเเละผู้ป่วยเหน็บชา Wernick-Korsakoff Syndrome ในรายที่เป็นมากอาจทำให้มีอาการทางจิตที่เรียกว่า Korsakoff’s Psychosis 

                    วิธีการป้องกันเหน็บชาที่สามารถทำได้ง่ายๆคือ การใส่ใจกับการรับประทานอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เเละให้วิตามินบี 1 ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 คือ เนื้อสัตว์ต่างๆ ปลา ถั่วเเละธัญพืชต่างๆ อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์จากนมเเละอาหารประเภทเเป้ง เช่น ขนมปัง ซีเรียล 

                    การรักษาอาการเหน็บชาหากเป็นกรณีที่มีอาการไม่รุนเเรงมากแพทย์จะให้วิตามินบี 1 ชนิดเม็ดให้รับประทานเป็นอาหารเสริม หากมีอาการรุนเเรงแพทย์อาจจำเป็นต้องให้วิตามินบี 1 ทางหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อโดยปริมาณเเละระยะเวลาในการให้วิตามินบี 1 จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา  

                    คนทั่วไปมักคิดว่าโรคเหน็บชาเป็นโรคที่สามารถพบได้ในคนที่มีรูปร่างผอมเเต่จริงๆเเล้วคนทั่วไปก็สามารถป่วยเป็นโรคเหน็บชาได้ เนื่องจากการขาดวิตามินบี 1 ซึ่งการป้องกันสามารถทำได้ง่ายๆด้วยตนเองเเละหากมีอาการเเล้วควรรีบไปพบเเพทย์เพื่อทำตรวจวินิจฉัยเเละรักษา 

Share this :